ตัวเลขกับ แมน การิน มหัศจรรย์

  เริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า หมอแมน หันมาสนใจการดูตัวเลขทางโหราศาสตร์ได้อย่างไร นักแสดงหนุ่ม ก็ขอออกตัวก่อนว่า อย่าเรียกเขาว่า หมอแมนเลย อยากให้เรียก แมน การิน เหมือนเดิม เพราะเรื่องที่ตนจะพูดไม่ใช่เรื่องของโหราศาสตร์แต่เป็นเรื่องของสถิติ เป็นการเก็บข้อมูลตัวเลขและมาบอกต่อกันเท่านั้นเอง คือ ด้วยความที่ตนเป็นคนช่างสังเกต และเรียนทางคณิตศาสตร์ สถิติ มาด้วย ก็เลยสังเกตได้ว่า ความ จริงตัวเลขแต่ละตัวมันมีที่อยู่ที่เหมาะสมของมัน จากนั้นตนก็เริ่มเก็บข้อมูลมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งได้ม๊โอกาสเจอพี่อ้วน พี่ที่รู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์และดวงดาว พอได้คุยกัน จึงรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่าง ที่คล้ายกัน เช่น เลขบางเลขที่โหราศาสตร์บอกแบบนี้ กับตัวเลขที่เราสะสมสถิติมา มันมีคำอธิบายที่คล้ายกัน แต่ตอนนั้นตนก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย ต้องทำการศึกษาและพิสูจน์ต่อไป

    แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม ตอนแรกที่หนุ่มแมนเริ่มมาดูดวงนั้น ไม่มีใครทราบมาก่อนว่าเป็น แมน การิน ที่เป็นดารา เพราะในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็รู้แต่ชื่อว่า หมอแมน แม้น แม่น วู้ดดี้ จึงถามว่าแล้วความลับมันมาแตกตอนไหน หนุ่มแมน เล่าว่า คือมีศิลปินท่านหนึ่งที่ตนมีโอกาสดูเลขโทรศัพท์มือถือให้ ซึ่งตนได้บอกไปว่า เบอร์นี้มีเรื่องของเนื้องอก มะเร็ง และอัลไซเมอร์ จึงทำให้เรื่องมันดังขึ้นมา แต่ที่ทำให้ดังจริง ๆ คงจะเป็นตอนที่ไปออก แฉแต่เช้า พอคนรู้ว่าเป็น แมน การิน ก็ โทรเข้ามากันยกใหญ่ จนมือถือแมนใช้ไม่ได้ และกระแสดังกล่าวก็ลามไปในกลุ่มดารา นักแสดง และผู้จัดการดาราชื่อดัง รวมทั้งนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน หมอก้อง สรวิทย์ สุบุญ เกรท วรินทร ปัญหกาจญ์ แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ และดาราซูเปอร์สตาร์อีกหลายคนที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หลังจากดูดวงตัวเลขกับ แมน การิน

          วู้ดดี้ ถามต่อว่า แล้วเลขที่บ้านดูได้หรือไม่ แมน การิน ตอบว่า จริง ๆ แล้วก็มีการดูสถิติได้ แต่ด้วยความที่ว่าบ้านนั้นมีปัจจัยภายนอกหลายอย่าง เช่น เรื่องที่ตั้ง ฮวงจุ้ยที่ดี จึงทำให้มีผลน้อยลงไป และอีกอย่างหนึ่งคือ บ้านอยู่กันหลายคน แต่โทรศัพท์เป็นของใช้ส่วนตัวที่คนเราพกติดตัวตลอด จริง ๆ ตัวเลขทุกตัวมีข้อดีและเสียเหมือน ๆ กันหมด แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกตัวเลขไหนให้ตรงกับคาแร็คเตอร์ของเรา อย่างเช่นตัวเลขนี้อยู่กับคนหนึ่งแล้วไม่ค่อยดี แต่พออยู่กับคนอื่นที่เหมาะสมกับตัวเลขนี้กลับกลายเป็นดี ทั้งนี้ หนุ่มแมนได้ทำการเก็บสถิติรายงานคนที่เปลี่ยนเบอร์ด้วยว่า ความจริงแล้วการเปลี่ยนเบอร์มันช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นจริง ๆ หรือเปล่า ในอนาคตนั้นไม่รู้ แต่ที่รู้ว่าในปัจจุบัน ตัวเลขมันเหมาะสมกับเรา จึงทำให้เรามีคาแร็คเตอร์ที่ดีขึ้น

แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์



          จากนั้น หนุ่มแมนได้ยกตัวอย่างคนที่เขาได้บอกให้ไปเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเป็นผู้จัดการดาราของซุปตาร์ 1 ใน 3 ของเมืองไทย ตอนแรกหนุ่มแมนดูจากรูปร่างหน้าตาว่า เขาไม่น่าจะมีแฟนได้ แต่ผ่านไป 1 ปีหลังจากหนุ่มแมนแนะนำให้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เขาเอาการ์ดแต่งงานมาแจกถึงที่เลยทีเดียว


แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์


          และเมื่อหมอแมนมาถึงรายการทั้งที วู้ดดี้จึงถือโอกาสเอาเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้ดู หนุ่มแมนก็เริ่มต้นด้วยการถามว่า ใช้เบอร์นี้มานานหรือยัง วู้ดดี้บอกว่าใช้มาประมาณ 1 ปี แมน การิน บอกว่า ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร แต่หลัง ๆ มานี้ วู้ดดี้ใจเย็นลง ค่อย ๆ คิด มีสติมากขึ้น เพราะเลข 5 เป็นเลขของการใช้ความคิด สติในการไตร่ตรอง ส่วนเลขที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เป็นเลข 37 หรือ 73 เพราะมันคือเลขแห่งความหดหู่ใจ เหนื่อยยาก ลำบาก ส่วนเลขโดยรวมที่ดี คือ 24 กับ 56 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ด้วย

แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์


แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์
     หลายคนเชื่อว่า เลขศาสตร์ นั้นมีความสำคัญกับชีวิตคนเรามาก เพราะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตในด้านที่ดีและไม่ดี ซึ่งเรื่องการใช้เบอร์โทรศัพท์นั้นถือว่าเป็นเลขศาสตร์ที่มีพลังงานชนิด หนึ่ง ที่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีการปล่อยพลังงานในคลื่นโทรศัพท์ออก มาจริงๆ เพราะชีวิตคนเราพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำงาน หรือ นอนหลับพักผ่อน พลังงานของคลื่นโทรศัพท์จะติดตามตัวเราไปอย่างต่อเนื่อง


แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์


การ ที่คนเราจะใช้ เลขศาสตร์ หรือ เบอร์โทรศัพท์ อะไรก็ตามจะให้ผลดีหรือร้าย หรือปานกลางไม่ดีไม่ร้ายนั้นขึ้นอยู่ตัวเลขของเบอร์โทรศัพท์ที่เราเลือกมา ใช้และนำมาพกติดตัวเราตลอดเวลา ซึ่ง เลขศาสตร์ นี้มีพลังงานที่สามารถกำหนดทิศทางชีวิตเราได้

แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์


ในเรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วจากผู้ที่ใช้นามแฝงว่า หมอ แมน แม๊น แม่น ว่าเบอร์โทรศัพท์มีผลกับชีวิตคนเราจริงๆ เพราะกรรมทำใ ห้เป็น และหากมาอธิบายความทางโหราศาสตร์จะพบว่า เป็นเครื่องมือใช้อ่าน กรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ทุกอย่าง เกิดจากกรรม ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใสก็จะได้ผลดี


การเปลี่ยนเบอร์โทร คือการเปลี่ยนกระแสกรรม ซึ่งทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป เป็นวิธีเลี่ยง วิธีหนึ่ง ซึ่งการแห่เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่พกโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ที่ทุกคนยอมรับว่า เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และกำลังเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนถึงดวงชะตาของแต่ละคน


แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์


หมอ แมน แม้น แม่น กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล แต่ส่วนใหญ่ก็มีความเชื่อ และใช้บริการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตามคำแนะนำกันมาก เพื่อการเสริมดวงผ่านเบอร์โทรศัพท์

กระแส ดังกล่าวฮอตมากในกลุ่มดารา นักแสดง และผู้จัดการดาราชื่อดัง รวมทั้งนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อาทิ อั๋น ภูวนาท คุนผลิน หมอก้อง สรวิทย์ สุบุญ เกรท วรินทร ปัญหกาจญ์ แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ ดาราซูปเปอร์สตาร์อีกหลายคน

ซึ่ง ส่วนใหญ่เปลี่ยนกับ หมอแมน แม๊น แม่น เพื่อเสริมชะตาชีวิต ความรัก ความมั่นคง และความร่ำรวย โดยในเรื่องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์นั้นเราได้สอบถามบรรดาดารา และนักธุรกิจทายาทเจ้าของเบียร์ชื่อดังที่แต่งงานกับนางเอกสาวคนหนึ่ง แล้ว ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริงตามข่าวที่มีออกมา ( เราต้องการพิสูจน์ว่าเรื่องนี้จริงหรือเท็จ)


แมน การิน ดูดวงเบอร์โทรศัพท์

ทั้ง นี้ คนที่มีความเชื่อในเรื่องพลังงานของเลขศาสตร์ ส่วนใหญ่จะมีเบอร์มือถือมากกว่า 1 เบอร์ เพื่อเสริมดวง โดยใช้เบอร์ที่ถูกกับดวงชะตาเป็นเบอร์หลัก และอีกเบอร์ใช้เป็นเบอร์สำหรับทำงาน ซึ่ง หมอแมน แม๊น แม่น ระบุว่า ควรจะใช้เบอร์ที่มีเลขศาสตร์ดีๆ เป็นเบอร์หลัก ส่วนอีกเบอร์ที่ไม่ถูกกับดวงชะตาต้องค่อยๆ เลิกใช้ให้เร็วที่สุด (ค่อยๆ บอกกับเพื่อนและลูกค้า หรือ ใช้บริการ SMS บอกว่าเปลี่ยนเบอร์โทรแล้ว)

ราย ละเอียดเรื่องการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อเสริมดวงบารมี ไม่ได้มีอะไรที่ยุ่งยาก และซับซ้อน ค่าใช้จ่ายก็มีเพียงแค่การเปลี่ยนซิมเบอร์มือถือเหมือนปกติทั่วๆ เท่านั้น

ในเรื่องนี้ทราบมาว่า หมอแมน แม๊น แม่นไม่ ได้รับเปลี่ยนในเชิงธุรกิจ แต่รับช่วยเหลือเท่านั้น เพราะการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถเสริมดวงบารมีให้ชีวิตการทำงาน และ การเงิน ความรัก สุขภาพ ก็เหมือนกับการทำบุญไปด้วย



ได้ รู้จักศาสตร์แห่งตัวเลขไปบ้างแล้ว ทางรายการจึงขอพาแขกรับเชิญสาว ที่กำลังฮอตสุด ๆ อย่าง ใบเตย อาร์สยาม มาร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์ในการเปลี่ยนเบอร์มือถือ ซึ่งสาวใบเตยบอกว่า เธอเปิดเจอข่าวคราวของหนุ่มแมนตามหน้าหนังสือ และจัดแจงซื้อเบอร์มือถือใหม่ให้มีเลข 6 2 4 ตามทฤษฎีที่ แมน การิน เคยเอ่ยถึงทันที ซึ่งใบเตยยอมรับว่าเธอปลื้มการเปลี่ยนเบอร์ในครั้งนี้มาก เพราะเป็นเลขที่ช่วยทั้งด้านการเงิน และความรัก แต่นั่นยังไม่พอใบเตยขอเปิดเผยเบอร์โทรศัพท์ให้ แมน การิน ได้เห็นแบบครบถ้วน เพื่อลงลึกมากยิ่งขึ้น

โดย แมน การิน บอกว่า เบอร์โทรศัพท์ของสาวใบเตย เป็นเลขที่ดีอยู่แล้ว แต่ให้ระวังเลข 8 6 8 เพราะเป็นเลขที่มีปัญหาด้านการเข้าสังคม ทำให้เงินหมดไปกับการปาร์ตี้ได้ง่าย สาวใบเตยจึงขอแจงถึงความต้องการของเธอให้ชัด ๆ ไปเลยว่าอยากได้เลขที่จะช่วยเสริมให้มีคนรักเธอมากขึ้น มีคนแอนตี้น้อยลง ครอบครัวรักกันมากขึ้น ขอให้สวยขึ้น เก็บเงินได้มากขึ้น และมีงานมีชื่อเสียงแบบนี้ตลอดไป และเลขเบอร์โทรศัพท์ที่ แมน การิน การันตีแล้วว่าเหมาะสมกับสาวใบเตย ก็คือ 086-916-6xxx ซึ่งใบเตยก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่มและบอกว่าเธอพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนเบอร์ มือถืออีกครั้ง

สุด ท้าย ทางรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย พาดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา มาร่วมเซอร์ไพรส์สาวใบเตยกลางรายการพร้อมดอกไม้ช่อโต ทำเอาใบเตยถึงกับอายม้วนเลยทีเดียว แหม! รวมทั้งเรื่องของศาสตร์แห่งตัวเลขและความหวานของใบเตยและแฟนหนุ่มไว้แบบนี้ ใครพลาดชมคงต้องลองไปดูย้อนหลังกันหน่อยแล้วล่ะจ้า 

  ตัวเลขที่ควรหลีักเลี่ยงในเบอร์โทรศัพท์



ตัวเลขที่ไม่แนะนำให้ใช้ อาทิเช่น

    11 เลขชอบเด่นชอบดัง พึ่งพาใครไม่ได้

    12 21 เลขสามีภรรยาทะเลาะกัน
    13 31 เลขขาลุย มีโอกาสผ่าตัดสูง
    17 71 เลขใจร้อน ถือตัวเองเป็นใหญ่
    18 81 เลขมีโอกาสถูกหักหลัง
    25 52 เลขผู้หญิงอุปถัมภ์ผู้ชาย
    27 72 เลขมีหนี้สินรุงรัง
    33 เลขใจร้อน วู่วาม ชอบปะทะแหลก
    34 43 เลขใช้ปากหาเรื่อง
    37 73 เลขมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ , ผิดหวังในความรัก
    38 83 เลขเสน่ห์แรง มีโอกาสเป็นมือที่สาม
    48 84 เลขมีโอกาสถูกเบี้ยวสัญญา ทำคุณคนไม่ขึ้น
    58 85 เลขแก้ปัญหาให้คนรอบข้างไม่จบสิ้น
    57 75 เลขอยากได้อะไรต้องรอ
    67 76 เลขอุปสรรคทั้งการงาน และความรัก
    77 เลขทำงานหนัก เครียดจัด
    79 97 เลขเก็บตัว มีโอกาสขึ้นคาน
    00 เลขเก็บตัว มีโอกาสป่วยหนัก
    02 20 06 60 เลขมีรักซ้อน
    03 30 เลขเก็บกด ชอบจับผิด ตรวจสอบ มักจะเป็นโรคเครียด04 40 เลขเก็บความลับเก่ง เป็นคนมีความลับเยอะ
    08 80 เลขเงินรัอน  จบ.




คลิป แมน การิน



แมน การิน: Mathelogy(แมธเธโลจี) ออกรายการ
เปิดเผยเบอร์โทรศัพท์ให้ แมน การิน ได้เห็นแบบครบถ้วน เพื่อลงลึกมากยิ่งขึ้น

โดย แมน การิน บอกว่า เบอร์โทรศัพท์ของสาวใบเตย เป็นเลขที่ดีอยู่แล้ว แต่ให้ระวังเลข 8 6 8 เพราะเป็นเลขที่มีปัญหาด้านการเข้าสังคม ทำให้เงินหมดไปกับการปาร์ตี้ได้ง่าย สาวใบเตยจึงขอแจงถึงความต้องการของเธอให้ชัด ๆ ไปเลยว่าอยากได้เลขที่จะช่วยเสริมให้มีคนรักเธอมากขึ้น มีคนแอนตี้น้อยลง ครอบครัวรักกันมากขึ้น ขอให้สวยขึ้น เก็บเงินได้มากขึ้น และมีงานมีชื่อเสียงแบบนี้ตลอดไป และเลขเบอร์โทรศัพท์ที่ แมน การิน การันตีแล้วว่าเหมาะสมกับสาวใบเตย ก็คือ 086-916-6xxx ซึ่งใบเตยก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่มและบอกว่าเธอพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนเบอร์ มือถืออีกครั้ง

สุด ท้าย ทางรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย พาดีเจแมน พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา มาร่วมเซอร์ไพรส์สาวใบเตยกลางรายการพร้อมดอกไม้ช่อโต ทำเอาใบเตยถึงกับอายม้วนเลยทีเดียว แหม! รวมทั้งเรื่องของศาสตร์แห่งตัวเลขและความหวานของใบเตยและแฟนหนุ่มไว้แบบนี้ ใครพลาดชมคงต้องลองไปดูย้อนหลังกันหน่อยแล้วล่ะจ้า 















วิธีการล้างคราบรัก และ สนิมเขียว





วิธีล้างคราบรักหรือคราบต่างๆ วิธีขจัดสนิมเขียว วิธีการเก็บรักษาพระเครื่องพระบูชา

1. วิธีล้างคราบรักหรือคราบต่างๆ ที่ติดอยู่กับพระผง, พระกรุต้องทำอย่างไร

2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากองค์พระบูชาต้องทำอย่างไร

3. วิธีการเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชาของคุณแทนทำอย่างไรบ้าง

ตอบ..

1. วิธีล้างทำความสะอาดพระเครื่องนั้น ต้องดูที่ว่าเราต้องการทำความสะอาดอะไร และพระนั้นๆ มีเนื้อวัสดุเป็นอะไร เพราะการทำความสะอาดจะไม่เหมือนกันครับ การทำความสะอาดก็ต้องประณีตพอสมควร ไม่เช่นนั้นจะทำให้พระเก่าๆ นั้นเสียหายได้ครับ เอาละผมจะพูดถึงการทำความสะอาดทั่วๆ ไปก่อน ถ้าพระเครื่องของคุณสกปรกอาจจะมาจากคราบเหงื่อไคลหรือผงฝุ่นละอองต่างๆ ก็ให้นำเตรียมน้ำอุ่นแล้วผสมกับสบู่เหลวใส่ถ้วยไว้ หาพู่กันระบายสี เอาชนิดดีๆ หน่อย จะเป็นของสง่ามะยุระก็ได้เอาประเภทขนแปรงอ่อนๆ ก็แล้วกัน จากนั้น ให้ตัดปลายพู่กันให้สั้นลงสักเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อให้ขนแปรงมีสปริง จากนั้นก็นำพระที่จะล้างลงแช่ในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ใช้พู่กันปัดเบาๆ หลายๆ ครั้ง จะเห็นว่าคราบสกปรกจะค่อยหลุดออกเองครับ ทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ แล้วก็นำน้ำสะอาดมาใส่ถ้วยแล้วนำพระมาล้างอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมจนแห้งหรือผึ่งลมไว้สัก 24 ช.ม. ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ ข้อสำคัญอย่าล้างแบบรีบร้อนเพื่อต้องการเอาสิ่งสกปรกออกเร็วๆ ต้องค่อยๆ ล้างออกทีละนิดทีละนิดนะครับ


ส่วนวิธีล้างรักออกจากองค์พระนั้น เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้ความประณีตมาก ขั้นแรกให้ไปซื้อนำยาลอกสีจากร้านวัสดุก่อสร้างมาหนึ่งกระป๋อง เอากระป๋องเล็กก็พอไม่กี่บาทหรอก จากนั้นก็หาพู่กันขนแข็งจากร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละมาหนึ่งอัน แต่ไม่ต้องตัดปลายอีก หาไม้ไผ่หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้มาหนึ่งอัน จากนั้นก็หาภาชนะใส่น้ำไว้ 2 อัน อันแรกให้ใส่น้ำผสมสบู่เหลว อันที่สองให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ จากนั้นก็นำน้ำยาลอกสีมาใส่ภาชนะที่เป็นกระเบื้องหรือแก้วก็ได้ ตักออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เอาไม้ไผ่แตะน้ำยานำมาแต้มที่บริเวณรักที่ต้องการจะลอก ให้ทำทีละจุดเล็กๆ ก่อน ทิ้งไว้สักครู่ก็จะเห็นว่ารักจะเริ่มพองและเริ่มล่อนออกมา ก็ให้ใช้พู่กันปัดเอารักออก ทำไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นก็นำพระไปล้างที่น้ำผสมสบู่เหลว ปัดด้วยพู่กันขนอ่อน ล้างให้สะอาดแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกที แล้วจึงนำไปผึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ อย่าลืมว่า การทำทั้งสองอย่างที่บอกมานี้ต้องค่อยๆ ทำทีละน้อยทีละจุด อย่างประณีต ไม่เช่นนั้นจะทำให้องค์พระเสียหายได้ครับ อ้อน้ำยาลอกสีนี้ เวลาใช้ต้องระวังให้มากครับ อย่าให้กระเด็นโดนผิวหรือตาเป็นอันขาด เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟครับ ถ้าโดนผิวจะแสบจี๊ดเลยครับ ถ้ากระเด็นโดนก็ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ และถ้าโดนตาละก็ไม่ต้องพูดแหละครับรีบล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วรีบหาหมอลูกเดียว

2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากพระบูชา ก็ทำคล้ายๆ กับการล้างคราบสนิมเขียวจากเหรียญถ้าเป็นไม่มากนักก็ใช้ครีมทาผิว ยี่ห้อนีเวีย หรือซิตร้าไวท์ก็ได้ พอกไว้บริเวณที่เป็นสนิมเขียว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ช.ม. แล้วจึงล้างออก ถ้ายังออกไม่หมดก็พอกใหม่ทิ้งเวลาให้นานขึ้นๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ออกจนหมดครับ ยังมีวิธีที่ล้างสนิมเขียวให้เร็วขึ้น แต่เสี่ยงกับการเสียผิวพระครับ ผู้ล้างต้องมีความรู้ความชำนาญมากจึงจะทำได้ครับ

3. การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชา ก็ไม่มีอะไรมากครับ พระเครื่องที่เราใส่ห้อยคอ ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เลี่ยมพลาสติกหุ้มแล้วไปจับกรอบทองหรืออะไรก็แล้วแต่อีก ที ไอเหงื่อจะไม่ไปโดนองค์พระครับ แต่ถ้าใส่กรอบแบบตลับ ไอเหงื่อจะซึมเข้าได้ ก็คอยสังเกตดู ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไป นานๆ ก็นำมาล้างตามที่บอกไปแล้วซักที ก็พอครับส่วนพระที่เก็บไว้ที่บ้านก็ให้หากล่องใส่พระที่เป็นกล่องสแตนเลสที่ มีฟองน้ำสองด้าน (ด้านบนและด้านล่าง) สำหรับใส่พระเขามีขายทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์ใส่พระ นำพระเก็บไว้ให้ห่างกันพอสมควร ไม่ควรใส่จนแน่นเกินไปจะทำให้พระเสียหายได้ และควรใส่พระประเภทเนื้อแบบเดียวกันในกล่องเดียวกัน เช่นเนื้อผงก็ใส่กับเนื้อผง เนื้อดินก็ใส่กับเนื้อดิน เนื้อโลหะก็ใส่กับเนื้อโลหะ เหรียญก็ใส่กับเหรียญ และไม่ควรใส่พระในกล่องโดยซ้อนกันสองชั้นจะทำให้พระเสียหายได้

ส่วน พระบูชาก็ไม่มีอะไรมากตั้งไว้บนหิ้งพระนั่นแหละครับ ถ้ากลัวว่าจะมีฝุ่นหรือความชื้นมาเกาะก็หาครอบแก้วมาครอบไว้ แล้วนำซองกันชื้นมาใส่ไว้เพื่อกันความชื้นก็พอช่วยได้ครับ ซองกันชื้นถ้าหาที่ไหนไม่ได้ก็ไปซื้อที่ร้านถ่ายรูปหรือร้านขายกล้องถ่ายรูป เขามีขายครับ

การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชาที่ผมบอกนี้ไม่ได้กันขโมยนะครับ ถ้ากันขโมยก็ต้องเก็บไว้ที่ธนาคารครับ


  ข้อมูล จากในอินเตอร์เนต ขอบคุณมากครับ เพื่อคนรักพระด้วยกันครับ

การล้างเหรียญ 2

นีเวีย ขวดน้ำเงิน ฝาขาว ใส่ถุงซิบพอท่วมเหรียญ แช่ไป ใช้นิ้วคลึงๆ เป็นระยะ ดูว่า ขี้เขียวอ่อนตัวหรือยัง
ถ้า เห็นว่าเริ่มอ่อนตัว นำออกมา ใช้ คัทตอลบัต ถูเบาๆ ในซอกลึก ใช้ ใม่จิ้มฟันปลายแหลมๆ กัดๆตรงปลายเล็กน้อย (นิดเดียว) ใช้เขี่ยๆ ในซอกลึก
ถ้ายังออกไม่ดี แช่ต่อ แล้ว ทำอีกครั้ง

ระวัง แช่นานไป รมดำลอก แช่นานไป ตรงที่รมดำลอกอยู่แล้ว จะผิวแดง ขัดแรงไป รมดำลอก

ปล. เหรียญทองแดงที่ขี้เขียวขึ้นแล้ว ต้องทำใจว่า หากล้างขี้เขียวออก จะเห็นเนื้อในเลย (ในบริเวณที่ขี้เขียวขึ้น) เพราะใต้ขี้เขียว จะไม่มีผิวรมดำอยู่แล้วครับ

หลังจากล้างเรียบร้อย ล้างนำ้ยาล้างจานต่อ จนสะอาด (หากไม่สะอาด เมื่อเหรียญแห้ง ขี้เขียวจะขึ้นใหม่ทันที่)
ห้ามให้นิ้ว โดน หน้า-หลังเหรียญ เพราะ จะเกิดรายนิ้วมือครับ จับที่ขอบเท่านั้น


 เครดิตจาก เวป กรุสยาม ขอบคุณมากครับ

การล้างพระประเภทเหรียญ 1

 
การล้างเหรียญ


ก่อนล้าง........................
 

 
 
หลังล้าง.............ด้วยน้ำมันมะกอก เเช่ไว้ประมาณ10 นาที เเล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ห้ามใช้แปรงขัดถู..........เเล้วผึ่งให้เเห้งครับ


 เครดิต จาก  nanaamulet.com   ขอบคุณมากนะข้อมูลเพื่อส่วนรวมครับ

เล่นพระให้เป็นเล่นยังไง

วิธีการเล่นพระ-ดูพระ ยังไง ให้เป็นซะที
วงการพระบ้านเราเรียกได้ว่าเป็นที่รวมสิงห์เหนือเสือใต้ หรือสำนวนหนังกำลังภายในต้องใช้คำว่า ชุมนุมพยัฆค์ ซ่อนมังกรหมอบ อะไรเทือกนั้น คนที่เล่นพระใหม่ๆ มือไม้สั่นไปหมดกลัวโน่น กลัวนี่ จนสุดท้ายไม่ได้เล่น ความจริงแล้ว ทำใจให้โล่งๆ ถ้าอยากเล่นพระ เพราะไม่ใช่สถานที่น่ากลัวอะไร จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสามารถประมวลกรรม วิธีการเล่นพระให้เป็น โดยไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัวได้ โดยยึดหลักใหญ่ๆ ดังนี้
- หัดเล่นเป็นอย่างๆ ก็คือ เล่นพระให้รู้แจ้งแทงตลอด เป็นชนิดๆ ไม่ใช่อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ จนตัวเองงงไปหมด นักเล่นใหม่ๆ มักจะกังวลว่าจะรู้น้อย ไม่ต้องกลัวนะครับ เมื่อเล่นพระหรือ รู้ เรื่องพระเป็นชนิดๆ ความรู้ความสามารถในการดูพระชนิดอื่นๆ ก็จะตามมาเอง เพราะส่วนใหญ่แล้วพระหลายๆ ชนิด จะมีหลักการพิจารณา คล้ายคลึงหรือเป็นมาตรฐานเดียวกัน
- ต้องดูของจริงบ่อยๆ ภาษาเซียน เขาเรียก "ดูฟรี" ก็เบี้ยน้อยหอยน้อยนี่ครับ จะเช่าหลักหมื่น หลักแสน ก็กลัวไปหมด ระยะแรกๆ เลยต้องตีตั๋วฟรีไปก่อน อ้าว แล้วไปดูที่ไหนล่ะ อย่างแรกเลยง่ายๆ คือ ดูในหนังสือ กับเว็บไซต์พระเครื่องทั่วๆ ไป สมัยนี้ดีนะครับไม่เหมือนสมัยก่อน กว่าจะได้ดูแต่ละองค์นี่ตาเหลือก เดี๋ยวนี้ มีตีพิมพ์แพร่หลาย หาที่มีมาตรฐานหน่อย ก็จะได้รายละเอียดพอสมควร แต่ก็ไม่สมบูรณ์ตรงที่จะไม่มีมิติหรือความลึก และคำนวณขนาดที่แท้จริงไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้น ขั้นต่อมาก็คือ ไปโน่นเลยครับ ดูพระฟรีตามงานประกวดพระ ที่เขาตัดสินแล้วโชว์ หรือเดินดูตามตู้โชว์พระ ถ้ามีทุนพอค่อยเช่ามาส่องดูให้ทะลุทะลวงที่บ้าน
- แล้วดูยังไงละว่าเก๊หรือแท้ อันนี้เป็นเคล็ดลับครับ วิธีง่ายที่สุดในโลกคือ นำรูปพระหรือองค์พระที่แท้ หรือที่คิดว่าแท้ พิมพ์เดียวกัน มาวางเรียงกันอย่างน้อย 3 องค์ แล้วนำรูปพระเก๊ หรือ ที่คิดว่าเก๊ มาวางเปรียบเทียบ ถ้าของเราไม่เหมือนกับอีกสามองค์ละก็ สวัสดีท่านทีนึงแล้วหาเล่นใหม่ ตอนแรกๆ ก็จะดูไม่ค่อยออกหรอกครับว่าเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง แต่พอเพดานบินสูงขึ้น จะเริ่มสังเกตเห็นเอง เขาเรียกว่าวิธีการดูแบบธรรมชาติ พอตาจำแนกออก แล้วทีนี้ "รัศมีเซียน" เริ่มจะจับแล้วละครับ
- เข้าใจคำว่า "ดูพระ" ไหมครับ ความหมายก็คือใช้ตาดู ไม่ใช่ใช้หูดู เพราะบางคนตาจ้องพระแต่หูกระดิกคอยฟังเสียงว่าคนอื่นพูดว่ายังไง เสร็จครับ โดนแน่นอน เพราะพระต่างๆ จะมีนิทาน นิยาย จนบางทีคนเล่าเองยังงง บางองค์เป็นมรดกตกทอดของเจ้าคุณปู่ เจ้าคุณย่า สารพัดจะพูดกัน ตั้งสติดีๆ แล้วใช้ตาดู บางคนฉลาดหน่อยอาศัยเล่นพระองค์ที่วงการยอมรับ มีรูปลงตีพิมพ์มาหลายสิบปี ก็มักจะได้พระแท้ แต่ราคาก็ตามประวัติ คือ แพงหน่อย หากยังไม่มีทุน "ตามพระ" แล้วอยากจะเป็นเอง ก็อย่าฟังนิทาน หรือนิยายเพราะไม่มีใครยืนยันได้หรอกครับ
- พยายามศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของพระประเภทที่ต้องการศึกษา เช่น ธรรมชาติของโลหะ, สภาพของพระเนื้อดิน หรือเนื้อผง กรรมวิธีการสร้าง เช่น การหล่อ หรือ ปั๊ม พวกนี้จะหาอ่านได้ทั่วๆ ไป แต่ต้องอ่านแบบศึกษาจริงๆ จังๆ นะครับ ไม่ใช่อ่านไปงั้นๆ แล้วก็ลองคิดดูเอาเองว่ามันจริงอย่างที่เขาเขียนเขาบอกหรือเปล่า จำไว้เลยว่าความรู้ต้องทุ่มเทศึกษานะครับไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า เล่นเป็นหรือยัง เขาบอกยังงี้ครับว่า ถ้าอยากจะรู้ว่าตัวเองเข้าขั้น "เซียน" หรือยังไต่บันไดเซียนอยู่ ให้ลอง บินเดี่ยว คือ ลองเช่า โดยตัดสินใจด้วยตัวเอง ถ้าแท้ละก็ เริ่มจะเป็นเซียนแล้ว แต่ถ้าเช่า สามสี่ครั้งยังเก๊อยู่ละก็ คงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วที่สำคัญ ใจเย็นๆ นะครับ ให้ย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าแรกของคอลัมน์นี้อีกที แล้วลงมือปฏิบัติอย่างจริงๆ จังๆ สักวัน คงได้เป็นเซียนสมใจ ครับผม

   ข้อมูล จากอภิืนิหารพระเครื่อง  ขอบคุณมากครับ 


การล้างพระเนื้อดิน



ถ้ามีคนถามว่าทำไมต้องล้างพระ ก็ต้องตอบว่าเพราะพระเปื้อน หรือมีอะไรต่อมิอะไรปกคลุมสภาพพระเอาไว้เช่น เมื่อนำพระมาห้อยคอก็มีเหงื่อ ไคล คราบสกปรก ฝุ่นละออง ขี้เกลือ ฯลฯ หรือพระออกจากกรุก็จะมี ดิน ทราย ขี้กรุ คราบกรุ คราบน้ำฮาก (น้ำที่ต้นไม้ใหญ่ดูดไว้ในรากตอนหน้าน้ำหน้าแล้งคลายออกมาส่วนมากจะมีแร่ เหล็กปน) หินปูน สนิม ราดำ รักน้ำเกลี้ยง รักดิบ เป็นต้น
วันนี้พูดถึง “การล้างพระเนื้อดิน” ก่อน พระเนื้อดินที่ทำลายสถิติการล้างจนสนนราคาก่อนและหลังล้างห่างกันหลายพันลี้ ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ก็คือ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ มีกนก เนื้อสีแดง ที่วงการเรียกกันว่า ‘องค์เจ้าเงาะ’ ล้างโดย ท่านอาจารย์เชียร ธีระศานต์ เชื่อไหมครับอาจารย์เชียรล้างตั้ง 11 ครั้ง กว่าจะ "เห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน รูปเงาะนั้นใส่ให้คนหลง ใครๆ ไม่เห็นรูปทรง พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา" ที่คลุมท่านไว้นะเขาเรียกว่า ราดำ เป็นพืชชนิดหนึ่ง ถ้าพระไม่แท้ราดำจะไม่ขึ้นหรอกนะครับ คนล้างก็เก่งทิ้งราดำไว้นิดๆ เป็นการการันตีว่าของแท้แน่นอน ต่างชาติเช่าไปราคาตั้งห้าสิบล้านนะครับ ล้างพระดีไม่ดีน่าศึกษารึไม่คิดเอาเอง
ทีนี้ถ้าจะล้างพระเนื้อดินทั่วๆ ไปที่ห้อยคออยู่หรือมีคราบสกปรกจับ ก็ให้เอาน้ำอุ่น (ไม่ใช่น้ำร้อนนะครับ) แช่พระลงไป เอาพู่กันของ อ.สง่า มยุระ อันไม่ต้องใหญ่มาก ขริบปลายให้ยืดหยุ่น ค่อยๆ ปัดคราบสกปรกออก ถ้ายังเหนียวแน่น ให้เอาสบู่เหลวละลายลงไป แล้วปัดไปปัดมา แต่อย่าปัดซะหน้าพระหายไปด้วยก็แล้วกัน เสร็จแล้วอัญเชิญขึ้นมาเป่าด้วยที่เป่าผมให้แห้ง เป่าไกลๆ หน่อยนะครับแล้วไม่ต้องกดปุ่มร้อนมากเดี๋ยวพระแตก เมื่อก่อนเขาผึ่งให้แห้งเอง แต่เดียวนี้ผึ่งไม่ได้แล้วเพราะคนไทยใจร้อน แล้วอีกอย่างเดี๋ยวพระหาย
อันว่าการล้างคราบสกปรกแบบนี้ เป็นวิธีการตรวจสอบพระแท้พระซ่อมได้อีกประการหนึ่ง ถ้าแท้แน่นอนจริงๆ พระจะไม่ละลายไปกับน้ำอุ่นเพราะพระเนื้อดินแท้ย่อมเผาได้ที่ คงทนแดดฝนร้อนหนาว แต่ปัญหาหนึ่งก็คือถ้าซ่อมเอาไว้มักจะหลุดตามน้ำออกมา ดังนั้นหากรู้ว่าพระตัวเองมีซ่อมไม่ต้องแช่ลงไปในน้ำ ให้ใช้พู่กันหรือคอตตอนบัดจุ่มแล้วค่อยๆ ลูปก็พอแล้ว ตรงไหนรู้ว่าซ่อมก็ข้ามๆ ไปซะ มีอยู่รายหนึ่งหย่อนเม็ดขนุนลงไปในถ้วยน้ำชา หน้าหลุดออกมาคนไทเกอร์มาขายต้องวิ่งมาหยอดแล้วเอากลับไปอยู่กับก๋งตามเดิม นี่แสดงว่าคนหย่อนเป็นมวย
พอพระแห้งแล้วผิวจะเปลี่ยนไป ไม่ต้องตกใจ มีวิธีเรียกผิวเดิมที่สะสวยยกเว้นคราบสกปรกกลับมา ให้เอาครีมทาผิวขวดสีชมพู ทาด้วยพู่กันให้ทั่วทั้งหน้าหลัง ทิ้งไว้สักสองวัน ครีมจะซึมเข้าไปเรียกความงามของเนื้อพระกลับคืนมาทีนี้ก็อัญเชิญไปใส่ตลับ ได้ ถ้าตลับสกปรกก็ให้เอาลงต้ม ต้มได้ทั้งตลับทอง ทองฝังเพชร ตลับเงิน ตลับสแตนเลส พอน้ำเดือดก็บีบมะนาวลงไปซักครึ่งลูก อันนี้ใช้ล้างแหวนเพชร แหวนพลอย สร้อยคอ อะไรประมาณนี้ก็ได้นะครับ
ถ้าหากเป็นเนื้อดินที่เพิ่งขึ้นจากกรุ อย่าไปยุ่ง ปล่อยให้เซ็ทตัวซักสองสามวัน เนื้อพระจึงจะคืนสภาพไม่อ่อนยวบยาบ ส่วนใหญ่จะมีดิน ขี้กรุ และอื่นๆ ปกคลุม ให้เอาน้ำมันใส่ผมประเภทออด๊าซ ไบล์คลีม หรือแอ๊คชั่น ชโลมให้ทั่ว ทิ้งไว้สักวันสองวัน น้ำมันพวกนี้จะทำหน้าที่แยกเนื้อดินกับสิ่งปกคลุมองค์พระไม่ให้กลืนเป็น เนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำมาเขี่ยในน้ำอุ่น ทีนี้พู่กันมักจะเขี่ยไม่ค่อยออก ต้องใช้ไม้จิ้มฟันทำปลายให้แยกเป็นพู่แช่น้ำทิ้งไว้สักครู่ค่อยนำมาใช้ คนเขี่ยต้องรู้เรื่องแม่พิมพ์พระด้วย เพราะถ้าไม่รู้อาจเขี่ยจมูกปากพระหลุดติดมาก็ได้
จริงๆ แล้ว “เนื้อพระดิน” อาจ แบ่งออกเป็นสามชั้น ชั้นในสุดจะแกร่งเพราะโดนความร้อนตอนเผาอบอยู่ข้างในมักมีสีเขียว ชั้นสองจึงเป็นชั้นนอกที่มองเห็นทั่วไป แต่ชั้นที่สามจะเป็นผิวพระเหมือนหนังกำพร้าของคนมีความสวยงามของผิวบนของ เนื้อดินที่ทำปฏิกิริยากับอากาศ ฝีมือล้างขั้นเซียนเหยียบเมฆจะเหลือเห็นผิวนอกสุดไว้ด้วย
ทีนี้วัสดุที่คลุมองค์พระดินไว้นั้น มีมากมายหลายอย่าง วิธีเอาออกเลยแตกต่างกันบ้าง เช่น ถ้าเป็น ‘คราบดินธรรมดา’ ก็ ใช้น้ำผสมสบู่ล้างง่ายๆ แต่ถ้าเป็น ‘คราบกรุ’ ต้องใช้น้ำมันใส่ผมแยกเนื้อดินออกจากกรุก่อนแล้วจึงล้าง ถ้าขี้กรุแข็งล้างไม่ออกต้องผสมน้ำยาสูตรพิเศษ สมัยก่อนเขาใช้น้ำยากัดกระเบื้องยี่ห้อ โอลด์ไบร์ท เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เอาเป็นว่าให้หาน้ำยาทำความสะอาดกระเบื้อง เช่น วิคซอลท์ อะไรทำนองนี้ ผสมน้ำเปล่าในอัตราน้ำยา 1 ส่วน น้ำเปล่า 3 ส่วน แล้วแช่พระลงไป จะใช้โซดาไฟด์สองสามเกล็ดผสมน้ำก็ได้ ค่อยๆ ใจเย็นๆ เขี่ยไปล้างไปส่องไป อาจารย์เชียร ท่านยังล้างตั้งสิบเอ็ดครั้ง ก็จะมีส่วนที่หลุดออก หากเหลือที่จับแน่นแข็งขืนไม่ยอมหลุดออกมาก็ให้เพิ่มความเข้มข้นของน้ำยาไป เรื่อยๆ จนถึงขั้นใช้พู่กันจุ่มน้ำยา 100 เปอร์เซนต์เลย ทีนี้หลุดแน่นอน วิธีที่พูดมานี้ใช้ได้ทั้งขี้กรุ น้ำฮาก คราบสนิม
หากเป็น ‘ราดำ’ วิธีกำจัดคือเก็บพระไว้ในที่แห้ง ยิ่งนานก็จะย่งล้างง่ายขึ้น แต่อย่าเอาออกหมดนะครับเหลือไว้เป็นร่องรอยบ้างว่าพระเนี่ยเก่าจริง เพราะถ้าไม่เก่าจริงราดำไม่มีทางขึ้น
นอกจากนี้ยังมีบางองค์ ‘ชุบรักน้ำเกลี้ยง’ ซึ่งคนโบราณชอบใช้ทาพระเวลาอมพระหรืออาราธนาติดตัวหรือจุ่มทำน้ำมนต์พระก็จะ ไม่สึกง่าย แต่เลิกคิดล้างออกไปได้เลยเพราะยากมากถึงมากที่สุด ผิดกับ ‘รักดิบหรือรักดำ’ ที่มีความหนาแน่นมากไม่ซึมเข้าเนื้อพระ เมื่อได้อายุรักดำจะค่อยๆ กรอบแล้วล่อนเป็นแผ่นๆ โบราณใช้ทาแล้วปิดทองคำเปลวลงไป อันนี้ต้องใช้ฝีมือหน่อยเหมือนการล้างรักในพระสมเด็จฯ คือ ต้องเอาน้ำยาลอกสีขอนำเสนอยี่ห้อ ไดคลอโรมีเทน(Dichlomethane) กระป๋องละ 120 บาท ผสมน้ำอัตรา 1 ต่อ 3 ให้ดูอายุรักด้วยว่ากรอบมากหรือน้อย ถ้ากรอบน้อยก็ผสมให้เข้มข้นมาก ถ้ากรอบมากแสดงว่ารักจะหมดอายุแล้วก็ผสมบางๆ ใช้พู่กันป้ายทีละจุด พอป้ายปั๊บก็จุ่มพระลงไปในอ่างที่แช่น้ำแข็ง รักจะได้รีบหดตัวหรือม้วนตัว ใช้ปลายพู่กันค่อยๆ แทงรักให้หลุด หากปลายพู่กันแทงไม่ออกก็ให้ใช้ปลายไม้จิ้มฟัน หรือใบเลื่อยที่นักเรียนใช้ฉลุไม้นำมาตัดปลายให้แหลมใช้ผ้าพันไว้จับ ใบเลื่อยนี่จะมีสปริงแคะรักได้ดีที่สำคัญอย่าให้โดนผิวพระเป็นเด็ดขาด วิธีนี้นิยมนำไปล้างรักในพระสมเด็จฯ ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยาการแตกลายงาอย่างสวยงาม
หากไปเจอพระเนื้อดินที่คนโบราณชอบใส่ไว้ในตลับสีผึ้งเอาไว้ทาปาก พอดึงขึ้นมาพระจะฉ่ำไปด้วยขี้ผึ้งล้างยังไงก็ไม่ออก ต้องต้มน้ำให้เดือดแล้วเทใส่ถ้วย แช่พระลงไปขี้ผึ้งจะค่อยๆ ลอยจากองค์พระ แล้วเปลี่ยนน้ำให้ร้อนไปเรื่อยๆ ก็จะได้พระที่ไม่มีไขขี้ผึ้ง อย่าลืมเรียกผิวพระกลับคืนด้วยโลชั่นบำรุงผิว คำเตือนอีกอย่างคือที่ พูดมานี่ใช้กับพระเนื้อดินที่ผ่านการเผาเท่านั้น พระอย่างอื่นไว้พูดกันวันหลัง หากจะเริ่มลองล้างให้หาพระราคาถูกๆ ล้างดูก่อนจนชำนาญแล้วค่อยล้างพระแพง ที่สำคัญต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำไปนะครับ พอล้างเป็นความสามารถในการดูพระจะพัฒนาขึ้นอีกหลายขั้นเลยทีเดียวเชียวครับ ผม

การล้างพระเนื้่ือผง

วิธีที่ ๑ ตัวอย่างได้พระเนื้อผง หรือ พระสมเด็จมา ๑ องค์ ขั้นตอนแรกให้ใช้แอลกอฮอล์ชโลมเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วจึงล้างด้วยน้ำอุ่น โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ลูบไล้ตามซอกต่าง ๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปผึ่งลม (ห้ามนำพระลงแช่น้ำอุ่นทั้งองค์โดยเด็ดขาด)  เมือแห้งสนิทแล้ว สีพระอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ไม่ต้องตกใจ เพราะที่เป็นอย่างนี้เพราะเหงื่อไคล หรือ ขี้มือฝุ่นละออง หลุดออกไป  การแก้ไขความซีดของพระไม่ยาก ให้ใช้สำลีชุบน้ำหอมสีอ่อน ๆ  ทาให้ทั่วองค์ เนื้อพระจะกลับมาเหมือนเดิม

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๒  การกำจัดฝ่นละออง   ให้ใช้คัดตอนบัด ลูบเบา ๆ มั่นปัดในซอกลึก ๆ ฝุ่นละอองจะหมดไป วิธีนี้เหมาะสำหรับพระที่จะเก็บเข้ากล่องนาน ๆ ครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๓  การกำจัดเชื้อรา  พระเครื่องที่เก็บไว้นาน ๆ ในฤดูฝนอากาศชื้นมากกว่าปกติ อาจมีเชื้อราจับเป็นฝ้าบาง ๆ ตามซอกต่าง ๆขององค์พระ ถ้ามีให้ใช้ขนมปังปอนด์ เอาเฉพาะส่วนที่นุ่ม ๆ ตรงกลาง ตบเบา ๆ บนเนื้อพระ ราและผงฝุ่นจะหลุดออกมาหมดพร้อมขนมปัง แต่ถ้าต้องการความสะอาดหมดจด ให้เอาพระซุกไว้บริเวณกลางเนื้อขนมปัง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ห่อขนมปังไว้อีกที ระวังอย่างให้ผ้าแห้ง ขนมปังจะแข็ง ทิ้งไว้ ๑ - ๒ คืน เมื่อเอาพระออกมา ใช้แปรงอ่อน ๆ หรือ คัดตอนบัด ปัดเศษขนมปังออกให้หมด จากนั้นผึ่งลมใหแห้งสนิทเนื้อพระจะเกลี้ยงเกลา ดูผิวหนึกหนุ่มนวลตาขึ้นเป็นอันมาก วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพระสมเด็จ ชนิดมีแป้งโรยพิมพ์

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๔ กำจัดความชื้น มีวิธีดังนี้

๑. ใช้ข้าวสารกลบไว้ในภาชนะขนาดย่อมสัก ๒ - ๓ คืน เมื่อเอาออกมาใช้แปรงขนอ่อน ปัดข้าวสารออก เนื้อพระจะแห้งปราศจากน้ำมัน ผิวพระจะนวล นุ่มตากว่าเก่า เหมาะสำหรับทำความสะอาดพระเนื้อนุ่ม

๒. สรงด้วยน้ำซาวข้าวที่มีตะกอนข้น ๆ แช่พระไว้ ๑-๒ ชั่วโมง แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผึงลมให้แห้งสนิท เหมาะสำหรับพระเนื้อแกร่ง

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๕  ล้างสนิม ในกรณีที่มีสนิมเหล็กจับที่เนื้อพระให้ใช้เปลือกหมากเจียนเปนชิ้นเล็ก ๆ จุ่มน้ำยาล้างสนิม ถูองค์พระค่อย ๆ หลาย ๆ ครั้ง  สนิมจะค่อย ๆ หลุดออก (ข้อควรระวังคืออย่าถูผิวพระแรง ๆ จะทำให้ผิวพระเสียได้)

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๖  ล้างสี  ในกรณีที่เนื้อพระเปื้อนสี ถ้าเป็นสีน้ำมัน ให้ล้างออกด้วยทินเนอร์ ถ้าเป้นสีชนิดอื่น ให้ใช้นำยาคลอรีน หรือน้ำยาซัลเฟอร์ได้ออกไซด์ล้างสีออกแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง ผึ้งให้แห้ง

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธี ที่ ๗ การแช่ด้วยผงชูรส  ใช้กับพระเนื้อโลหะ เหรียญ หรือรูปหล่อ  แช่ไว้ราวครึ่งชั่วโมง หรือนานกว่านั้นตามปริมาณคราบสกปรก เช็ดออกด้วยสำลี หรือล้างน้ำสะอาด การทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ อาจทำให้พระเปลี่ยนสีได้ ถ้าทิ้งไว้นาน ๆ ผิวจะกลับดั่งเดิม หรือถ้าใจร้อนอาจใช้ขีผึ้งเบอร์ ๒๘ ทาบาง ๆ ก็ได้  เป็นวิธีที่ไม่ควรทำ แต่ถ้าให้ดี ควรรักษาผิวเดิมของพระไว้ดีกว่า ถ้าอยากทำความสะอาดจริง ๆ สามารถล้างด้วยแชมภูอ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่นก็พอแล้วครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๘  ไม่ควรขัดพระด้วยน้ำยาขัดโลหะ  น้ำยาสำหรับขัดโลหะ สามารถขัดพระประเภทเนื้อสำริดหรือทองผสม ทำให้สะอาดหมดจดจริง ๆ แต่โลหะจะสึกมากกว่า การแช่ด้วยด้วยผงชูรส

-------------------------------------------------------------------------------------------

        
(การขัดพระ ล้างพระ ควรทำด้วยความระมัด ระวัง  การใช้กรดอย่างอ่อน เช่น มะนาว มะขาม ในพระเนื้อผง จะทำให้พระดูซีดขาวขึ้น ทำให้ขาดเสน่ห์)