นับแต่โบราณกาลมาแล้วที่คนรุ่นก่อนๆ
ได้รู้จักและเห็นคุณค่าของแก้วชนิดต่าง ๆ ว่ามีคุณวิเศษเพียงใด
ทั้งยังรู้จักที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและครอบครัว
แต่ก่อนที่จะนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามวิธีการที่แท้จริงนั้นต้องรู้จักคุณลักษณะ
ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแก้วแสงแต่ละชนิดเสียก่อน
ตำราดูลักษณะของแก้วตามแบบที่ถูกต้องตามตำราพื้นเมืองลานนานั้นจริง ๆ
แล้วเราสามารถแบ่งได้เป็นหลักใหญ่ ๆ ได้ทั้งหมด ๙ ประการ
และยังสามารถแบ่งแก้ววิเศษออกได้อีกเป็น ๒๔ ดวง แก้ววิเศษทั้ง ๒๔
ดวงดังกล่าวนี้ถ้าหากว่าผู้ใดก็ตามที่สามารถนำมาครอบครอง
หรือทำเป็นหัวแหวนแล้วนำมาสวมใส่มือหรือ
อาจจะนำมาพกติดตัวเอาเก็บไว้เป็นขวัญถุงแล้วก็จะทำให้ผู้ที่ครอบครอง
จะมีแต่ความสุขความเจริญมั่งศรีสุข
ข้าวของอันพึงมีจะไหลมาเทมาและยังมีอานุภาพทางมหาอำนาจ
คุ้มครองป้องกันจากภัยอันตรายต่าง ๆ ดังมีผู้ได้ประสบการณ์อยู่เนือง ๆ
บางทีก็ถึงขั้นคงกระพันฟันแทงไม่เข้า
ที่เรียกกันว่าข่ามคงคำลักษณ์วิเศษณ์ของภาษาทางเมืองเหนือที่มีมาช้านานนั้น
จะพรรณนาถึงลักษณะที่เกิดขึ้นภายในเรือนแก้วลักษณะของน้ำแก้วและส่วนพื้น
หรือส่วนประกอบที่เกิดขึ้นจริงอย่างเช่นจะพูดถึงประกายอันระยิบระยับ
หรือความแพรวพราวของน้ำแก้วเอง คือจะพรรณนาถึงประกายอันวูบวาบระยิบระยับ
ของเนื้อแก้วความแพรวพรายของแก้วและ น้ำแก้วได้อย่างน่าฟัง
เพราะบรรยายถึงคุณลักษณะแก้วโป่งข่ามที่ต้องการได้ดีเช่น
ของดีก็ควรคู่คนดีหรือคุณว่าไง?
ความวาวของแก้วที่ให้แสงแพรวพราย มักเรียกลักษณะนั้นว่า "มิงๆ ม็องๆ"
แววระยิบระยับ(เรียกกันว่า "มาบเม็บ") ของแก้วโป่งข่ามนั้นเรา
มักจะอยู่ในลายชื่อ ประกายแก้ว หรือลายที่ชื่อ แก้วกระจาย
ลักษณะของวาวประกายแก้วอาจจะยกตัวอย่างง่าย ๆ โดยเอาน้ำแข็งทุบให้แตก
สะเก็ดน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่รอบ ๆ จะให้ประกายชนิดนี้
แม้ต้องแสงพระอาทิตย์จะทำให้แสงนั้นแหลมคม แต่ก็ดูได้เย็นตา
วาวสะท้อนชนิดนี้ย่อมเป็นเอกลักษณะและคุณสมบัติที่เป็นคุณค่าเฉพาะตัวของแก้วโป่งข่าม
ส่วนลักษณะวาวแสงไม่บาดตาอยู่ในพวกให้แสงวาวแววแพรวพราย
วาวแก้วกระจายและวาวประกายแก้วนี้ต่างกันโดยลักษณะที่จำแนกขึ้น
แก้วกระจายหมายถึงแก้วในทรงผลึกเล็ก ๆ ในลักษณะหินทรายแก้วกระจาย
|
ส่วนประกายแก้วอยู่ใน
ลักษณะสะเก็ดที่แตกออกจากกันโดยกำเนิดมีความแหลมคม
ประกายแก้วอาจเกิดขึ้นจากกรรมวิธีโดยนำเอาแก้วผ่านความร้อนสูงแล้วชุบน้ำที่เย็นจัด
รอยร้าวด้วยกรรมวิธีนี้จะให้แสงแบบประกายแก้วได้เหมือนกัน
แต่แตกต่างจากที่เกิดตามธรรมชาติที่มีความนุ่มนวล
เย็นตากว่าและที่สำคัญ ลักษณะต่าง ๆ
ที่เกิดในเนื้อแก้วตามธรรมชาติจะเป็นตัวบอกคุณวิเศษของแก้วดวงนั้นว่ามีอาณุภาพเช่นไร
ส่วนแก้วที่อัดหรือทำให้เกิดลักษณะขึ้นนั้นจะไม่มีอานุภาพดังกล่าว
เพราะไม่มีพลังงานของธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องเลย
ผู้ที่สนใจจะซื้อหาแก้วโป่งข่ามจึงควรศึกษาเรียนรู้จากผู้รู้จริง
เพื่อที่จะให้ได้แก้วที่ทรงคุณค่าจริง ๆ ไว้เป็นมงคลแก่ชีวิต
หากเลือกซื้อหรือได้แก้วจากแหล่งที่ไม่มีคุณธรรมคือใช้เศษแก้วหรือการอัดแก้วหรือทำให้เกิดรอยฐาน
เพื่อเพิ่มราคาแก้วก็อาจได้แก้วที่ไม่มีซึ่งอำนาจและคุณวิเศษ
ซ้ำร้ายอาจได้แก้วอุบาทว์
คือไม่เป็นมงคลและอาจจะนำโชคร้ายมาสู่ตัวเจ้าของก็ได้
ส่วนแก้ววิเศษที่เล่ามานั้นยืนยันว่าหากใครมีไว้เป็นของวาสนา
เพราะทรงคุณตามตำราไว้ หากไม่จริง
คนโบราณท่านคงไม่บันทึกไว้เพื่อสืบทอดความเชื่อกันมานับร้อยนับพันปีครับ
|
|